Pages

Sunday, July 19, 2020

แจงให้เอกชนร่วมสายสีแดง “ศักดิ์สยาม” ชี้เป็นแนวคิดหลังรัฐใช้งบกู้โควิดมหาศาล - ไทยรัฐ

biasaajadongkeles.blogspot.com

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความ คืบหน้าโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิตว่า เดิมโครงการดังกล่าวมีกำหนดที่จะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 64 แต่เนื่องจากผู้รับจ้างขอยื่นขยายสัญญาการก่อสร้างออกไปอีกเป็น 1,122 วัน ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงคมนาคมรอรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก่อน และจากการรายงานของกรมการขนส่งทางรางยืนยันว่า เมื่อพิจารณากรอบเวลาการขยายสัญญาแล้ว สามารถลดบางขั้นตอนได้ ในสัปดาห์หน้าจะจัดประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปต่อไป

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าจะเปิดให้บริการได้เมื่อไหร่นั้น ต้องพิจารณาบนพื้นฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก รวมถึงในส่วนงานโยธาของช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันเสร็จ ถึงแม้จะแล้วเสร็จเกือบทั้งหมดแล้วนั้น ต้องมาพิจารณาว่า การจะเปิดให้บริการ มีในส่วนการวางระบบอาณัติสัญญาณด้วย ทั้งนี้ หากประเมินว่าสามารถเปิดเดินรถได้ ก็จะดำเนินการต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ในส่วนการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) นั้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลจึงต้องใช้งบประมาณในการป้องกันเยียวยา และฟื้นฟูจากสถานการณ์ดังกล่าวไปจำนวนมาก และขณะนี้การก่อหนี้สาธารณะก็มีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 58% เกือบชนเพดาน 60% แล้ว การนำเอกชนเข้าร่วมลงทุนจึงเป็นการลดภาระต่องบประมาณ ลดการก่อหนี้ในอนาคต และประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด มีภาระค่าโดยสารต่ำ รัฐต้องไม่เสียเปรียบ และเอกชนสามารถเดินหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่อง PPP นั้น ต้องเสนอให้คณะกรรมการ PPP และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจแห่งชาติ (คนร.) พิจารณาต่อไป

“เรื่องรถไฟสายสีแดงไม่ต้องกังวล และไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร เพราะผมใช้หลักธรรมาภิบาลในการทำงาน โปร่งใส มีส่วนร่วม และตรวจสอบได้ โดยในสัปดาห์หน้าต้องสรุปให้ได้ ต้องมาดูข้อเท็จจริง และเป็นไปตามหลักกฎหมาย รวมถึงเหตุผลต่างๆ” นายศักดิ์สยามกล่าว.

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)



"มีส่วนร่วม" - Google News
July 20, 2020 at 07:46AM
https://ift.tt/2WBdwy5

แจงให้เอกชนร่วมสายสีแดง “ศักดิ์สยาม” ชี้เป็นแนวคิดหลังรัฐใช้งบกู้โควิดมหาศาล - ไทยรัฐ
"มีส่วนร่วม" - Google News
https://ift.tt/3eCA8Vu

No comments:

Post a Comment