วันที่ 17 มิ.ย. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ความยาว 12 นาที ประกาศว่า "เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์" หลังวิกฤตโควิด-19 เตรียมปรับวิธีทำงานใหม่ให้คนทุกภาคส่วนร่วมวางแผนอนาคตประเทศ-ประเมินผลงานรัฐ
พล.อ. ประยุทธ์ เริ่มแถลงการณ์ด้วยการบอกว่ารู้สึก "เบาใจในระดับหนึ่ง" และ "เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์" หลังวิกฤตโควิด-19 ได้สร้างความเสียหายมากมายทั่วโลก รวมถึงสร้างความเดือดร้อนต่อคนไทยหลายสิบล้านคน
"แม้จะยังประกาศชัยชนะที่เรามีต่อโควิดได้ไม่เต็มที่นัก แต่อย่างน้อยเรารู้ว่า การระบาดของโควิด ลดลงไปอยู่ในระดับที่เราสามารถควบคุมได้ และได้รับการยอมรับว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่รับมือกับโควิดได้ดีที่สุดในโลก" พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว และบอกว่าจะผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ เท่าที่ทำได้ตามลำดับ และย้ำว่าต้อง "การ์ดไม่ตก" เพราะโควิด-19 สามารถกลับมาระบาดเป็นระลอกที่สองได้
นายกรัฐมนตรีบอกว่า ความท้าทายต่อจากนี้คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเขาอยากให้ประเทศไทยเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้แก่นานาชาติอย่างที่ทำสำเร็จมาแล้วในเรื่องการจัดการด้านสาธารณสุข
รัฐบาลวิถีใหม่
พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่า วิกฤตในครั้งนี้ทำให้เขาตระหนักถึง ความพิเศษของความเป็นไทย 2 เรื่อง คือ หนึ่ง การพร้อมใจช่วยเหลือกันและกันของคนไทย และสอง ประเทศไทยมีคนเก่งมากมายในทุกระดับของสังคมที่ต้องการจะช่วยเหลือประเทศ
นี่เป็นที่มาของความคิดที่จะปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลเป็นแบบ "วิถีใหม่" หรือ "New Normal" โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นด้วยกัน
1. "ผนึกทุกภาคส่วนร่วมวางอนาคตประเทศไทย"
พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่าจะ "เปิดโอกาสให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้ที่จะได้รับผลจากนโยบายต่างๆ เหล่านั้น ได้มีส่วนร่วมมากขึ้น ไม่ใช่แค่รับรู้นโยบายต่างๆ จากการอ่านข่าวทางหนังสือพิมพ์หรือสื่อออนไลน์เหมือนที่ผ่านๆ มา ต่อไปนี้ประชาชนต้องมีโอกาสมีส่วนร่วม รัฐบาลต้องได้ยินเสียงของประชาชน และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ให้มากขึ้น"
นายกรัฐมนตรีบอกว่า ในช่วงสัปดาห์หน้า จะขอให้แต่ละภาคส่วนเข้ามานำเสนอ "วิสัยทัศน์และความคิด" ในการเปลี่ยนโฉมภาคส่วนของตนเพื่อพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าให้ไกลขึ้น
"คนไทยทุกคนมีความสามารถและมีบทบาทที่จะช่วยกันนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นรัฐมนตรี ข้าราชการ เจ้าของธุรกิจ พนักงานบริษัท คนประกอบอาชีพต่างๆ เกษตรกร ครู หรือตัวแทนจากภาคประชาสังคม ทุกคนมีบทบาทที่จะช่วยประเทศได้"
2."การประเมินผลงานภาครัฐ โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตัวจริง"
พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่าจะเปิดโอกาสให้ประชาชน "ได้มีบทบาทในการประเมินผล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ให้ผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลได้รับทราบโดยตรงได้ด้วย"
3. "การทำงานเชิงรุก"
นายกรัฐมนตรีบอกว่า ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่าง "รวดเร็วและรุนแรง" รัฐบาลต้องทำงานให้บูรณาการมากขึ้น "โดยจะกำหนดนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ให้กับกระทรวงต่าง ๆ ทำขึ้นมาขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยผมจะติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นจริง อย่างมีประสิทธิภาพ"
พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่า อาจมีเสียงคัดค้าน ไม่เห็นด้วย เรื่องวิธีทำงานแบบใหม่ ซึ่งเขาก็พร้อมรับฟังและแก้ไขตามหากมีข้อเสนอแนะที่ดี
อย่าให้เกมการเมืองมารั้ง
พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่า "ประชาชนคนไทยรอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว" ที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น และขอให้หยุดเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์
"เราต้องหยุด ไม่ปล่อยให้เกมการเมือง ที่ไม่สุจริต บิดเบือนข้อเท็จจริง มาดึงรั้งการก้าวเดินไปข้างหน้าของประเทศโดยไม่จำเป็น เป้าหมายข้างหน้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองของประเทศรอเราอยู่ เส้นทางนี้ไม่ใกล้ แต่ก็ไม่ไกลจนเกินไป ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน" พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว โดยบอกว่าภารกิจนี้มีชื่อว่า "รวมไทยสร้างชาติ"
นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า "นี่คือเวลาแห่งโอกาส ที่จะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน"
"มีส่วนร่วม" - Google News
June 17, 2020 at 07:26PM
https://ift.tt/3dgHCg8
โควิด-19 : นายกฯประกาศ จะ "ทำงานแบบวิถีใหม่" หลังการระบาด ให้ทุกภาคส่วนร่วม "รวมไทยสร้างชาติ" - บีบีซีไทย
"มีส่วนร่วม" - Google News
https://ift.tt/3eCA8Vu
No comments:
Post a Comment